วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

บทที่ 2กลยุทธ์การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ

เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การดำเนินของธุรกิจมีความซับซ้อนขึ้น องค์กรต้องจัดวางแนวทางการปฏิบัติงานที่ชัดเจน ซึ่งทำให้การจัดการเชิงกลยุทธ์กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ดังที่ King (1978) กล่าวว่า “ระบบการวางแผนเชิงกลยุทธ์ คือ ระบบการจัดการที่การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ถูกกระทำอย่างเป็นระบบ โดยอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศภายในขอบเขตขององค์กรและจากสิ่งแวดล้อมด้านการจัดการ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่า สารสนเทศได้กลายเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการดำเนินงานเชิงกลยุทธ์ขององค์กรไปแล้ว


  เทคโนโลยีสารสนเทศที่มีบทบาทที่สำคัญต่อภาคธุรกิจมากกว่าเก็บรวบรวมประมวลผลข้อมูล และการจัดทำรายการเสนอต่อผู้บริหาร ซึ่งเป็นความท้าทายต่อความสามารถของผู้บริหารที่ต้องสามารถประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศให้เหมาะกับการทำงานของธุรกิจ เพราะการลงทุนด้านสารสนเทศที่สูง มิได้หมายความว่าองค์กรจะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือกว่าคู่แข่งขันเสมอไป แต่การลงทุนด้านสารสนเทศก็มิใช่ว่าจะประสบความราบรื่นเสมอไป การนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์อาจสร้างผลกระทบต่อบุคลากรและการดำเนินงานขององค์กร เช่น งานบางอย่างล้าสมัย ทำให้บุคคลากรบางส่วนไม่สามารถปรับตัวได้ทัน หรือความไม่สมดุลของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กร ทำให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง เป็นต้น นอกจากนี้มีหลายกรณีที่การนำสารสนเทศมาใช้งานในองค์กรประสบความล้มเหลว เพราะบางองค์กรมีข้อมูลมากแต่มีสารสนเทศน้อย ซึ่งScott Morton (1992) กล่าวว่า เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างแรงผลักดันที่มีองค์กร 5 ประการ ดังต่อไปนี้


1.       เทคโนโลยี (Technology) เทคโนโลยีสารสนเทศปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วซึ่งส่งผลโดยตรงต่อรูปแบบการทำงานขององค์กร เช่น ลดระยะเวลาในการปฏิบัติงาน ลดขั้นตอนในการทำงาน กำหนดโครงสร้างและกฎเกณฑ์ ย่นเวลาและระยะทางในการติดต่อลง เป็นต้น


2.       บทบาทของบุคคล (Individuals and Roles) พัฒนาการของเทคโนโลยีสารสนเทศนองค์กร ทำให้บุคคลมีเครื่องมือและกระบวนการปฏิบัติงานใหม่ ซึ่งส่งผลให้บุคคลต้องผ่านการฝึกอบรมและการศึกษาใหม่เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศในองค์กรยังมีผลต่อความใกล้ชิดระหว่างบุคคล ตลอดจนการรับรู้ การเรียนรู้ และความรู้สึกของบุคคล


3.       โครงสร้าง (Structure) หลายองค์กรต้องการปรับโครงสร้างใหม่ให้สอดคล้องกับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้งาน เช่น การรื้อปรับระบบ การจัดองค์กรแบบเครือข่าย การลดขนาดองค์กร หรือการจัดขนาดให้เหมาะสม เป็นต้น เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการตอบสนองต่อโอกาสและการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับองค์กร


4.       กระบวนการจัดการ (Management Process) สังคมปัจจุบันซึ่งอยู่ในช่วงของการเคลื่อนย้ายอำนาจจากการดำเนินงานที่อาศัยความได้เปรียบด้านแรงงาน หรือปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจมาเป็นการดำเนินงานที่อาศัยความได้เปรียบชิงความรู้ ซึ่งต้องอาศัย “บุคลากรที่มีความรู้” โดยบุคลากรกลุ่มนี้จะมีลักษณะที่แตกต่างจากแรงงานทั่วไป เช่นการศึกษาสูง รสนิยม และทัศนคติสมัยใหม่ เป็นต้น ดังนั้นผู้บริหารต้องปรับรูปแบบการจัดการ เพื่อให้เหมาะสมและจูงใจบุคคลเหล่านี้ให้ทำงานอย่างเต็มความสามารถ


5.       กลยุทธ์ (Strategy) ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศกลายเป็นเครื่องมือที่สำคัญเชิงกลยุทธ์ในหลายองค์กร เนื่องจากศักยภาพและความคล่องตัวในการใช้งาน จึงถูกนำมาประยุกต์เพื่อสร้างและธำรงรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันให้แก่องค์กร


  ปัจจุบันระบบสารสนเทศมีบทบาทสำคัญต่อการดำรงอยู่ขององค์กร หลายครั้งชัยชนะหรือความพ่ายแพ้ของธุรกิจขึ้นอยู่กับความสามารถในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์ในการดำเนินงานเพื่อให้ธุรกิจมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขัน ระบบสารสนเทศทำให้การจัดการเชิงกลยุทธ์มีประสิทธิภาพ และในทางกลับกันองค์กรต้องมีกลยุทธ์ในการพัฒนาระบบสารสนเทศที่เข็มแข็ง โดยที่ การนำสารสนเทศมาประยุกต์เชิงกลยุทธ์เกิดจากแรงผลักดัน 2 ประการ ดังต่อไปนี้


1.       การผลักของเทคโนโลยี (Technology Push) เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้อุปกรณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีความสามารถสูงขึ้น ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่ำลง นอกจากนี้การเชื่อมต่อระบบสารสนเทศเข้ากับเครือข่าย ทำให้การใช้ทรัพยากรร่วมกัน บริหารความเหมาะสม ซึ่งลดค่าใช้จ่ายในการทำงานที่ซ้ำซ้อน ส่งผลให้องค์กรสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ


2.       การดึงของตลาด (Marketing Pull) เทคโนโลยีสารสนเทศถูกนำมาประยุกต์ในองค์กรโดยทางตรงและทางอ้อม เนื่องจากการแข่งขันที่ทวีความรุนแรง ส่งผลให้องค์กรต้องหาเครื่องมือ ที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันหรือพยายามสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งขัน โดยการพัฒนานวัตกรรม ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น